ห้องที่ ๑๓๕ : ขุนพินิจจัย


           อสุรผัดมหิทธิล้ำ กุมภัณฑ์
ยามลิวันกัน ยุเวกแกล้ว
รับสั่งพระทรงธรรม์ นำทัพ กลับเฮย
ลุนิเวศนลงกาแผ้ว ผ่องน้ำใจเกษม
           นัดดามารุตเร้า รีบคลา
ดลตรุยลไอยกา หม่นไหม้
ซบภักตรแทบบาทา เทวศโศก ศัลยเฮย
สร่างโศกแล้วจึ่งได้ กล่าวแจ้งแถลงการ
           หลานรีบเฝ้าบาทไท้ ทูลทรง ครุธเอย
ตรัสสั่งสองอนุชอง อาจมล้าง
เสร็จศึกสั่งข้าตรง มาถอด ตาแฮ
ทูลจบจับโซร่ง้าง งัดเปลื้องพันธนา
           พิเภกคลายโศกสร้วม กอดหลาน ครวญเอย
ดวงเนตรดวงจิตรชาญ เชี่ยวผู้
ตาทุกขแทบวายปราณ ปราศจาก ยศแฮ
หากนัดดาก่อกู้ จิ่งพ้นไภยเข็ญ
           ปางเพรงเกิดเศอกครั้ง คราวมหา บาลเอย
พ่อพ่อชาญเดชา ช่วยเปลี้อง
คาบนี้นัดดามา ปลดทุกข์ ได้แฮ
ตรัสเสร็จท้าวรีบเยื้อง ยาตรขึ้นปรางสุวรรณ
           สูสนานทรงเครื่องพื้น พรรณราย เสด็จเอย
ออกพระโรงเสวกหลาย เรียบเฝ้า
ทรงทักทั่วทุกนาย เนาที่ นั้นนา
ต่างประนมก้มเกล้า นอบน้อมบทมาลย์
           ปิ่นราพอสุรผัดเร้า รีบจร
พร้อมมาตยานิกร ยาตรเยื้อง
สู่มรกฎศิงขร ลุพลับ พลานอ
พิเภกประนตเบื้อง บาทน้องนารายน์
          พระพรตปราโมทยเย้า ยินดี
ตรัสว่าโหรคัมภีร์ รอบรู้
ดังหนึ่งทิพยญาณปรี ชาชัด นักนอ
โหรอื่นฤๅจักสู้ สุดหล้าหาไหน
           ไฉนจิงเลี้ยงลูกอ้าย อสรพิศม์
ชีพย์ท่านเจียนจะปลิด ปลดม้วย
หากองค์พระจักรกฤษณ์ ทราบสั่ง เรานา
กับอนุชมาดว้ย รงับร้อนรงับเขญ
           ท่านจึ่งได้รอดพ้น ไภยพาล
เดิมท่านบวิจารณ์ จิตรไว้
บำรุงอริผลาญ ชนมชีพ ตนนา
เหตุอื่นอาจรู้ได้ บ่รู้รวังตน
           พิเภกทูลนอ้งพระ หริรักษ์
อันทศพิณทรลักษณ์ แย่งด้าว
เพราะข้าบาทหลงฟัก ฟูมว่า บุตรนอ
จนขุ่นเบื้องบาทท้าว โทษข้าควรประหาร
           หากโปรดจึ่งรอดม้วย ชนม์คง
พระเดชพระคุณยง ยิ่งฟ้า
มั่นจิตรภักดิ์จำนง สนองบาท พระนา
จวบสุดสูญชีพข้า สืบเค้าบุตรหลาน
           พระพรตทรงสดับถ้อย ขุนมาร
ตรัสว่าองค์อวตาร เลิศด้าว
ให้เรายกทวยหาญ โหมหัก ศึกแฮ
โดยเยี่ยงไวยกูลท้าว เที่ยงมล้างอาธรรม์
           เราโสรมนัศดุจได้ วิเชียรจักร มาเฮย
เพราะพระสฤษดิรักษ โปรดใช้
บคิดแก่เบาหนัก เหน็จเหนื่อย ยากแฮ
หวังจักสืบเกียรดิไว้ เกริกสิ้นกัลปา
          ตรัสเสร็จสั่งให้บุตร สุริยฉัน
ชำระโทษสองกุมภัณฑ์ แผกร้าย
ฟอกเอาเพื่อนพวกมัน มวญหมู่ ขบถนา
สุครีพรับสั่งย้าย ยาตรยั้งยังพลาน
           บังคับตำรวจทั้ง ทำมรง
กับพวกราชมันอง อาจห้าว
ผูกสองนักโทษทนง กับหลัก คาเอย
ติดเครื่องไม้กระหมับกร้าว กราดนิ้วกระทบเตือน
           ขันชเนาะเคาะเร่งด้วย ลวดหนัง
เฆียนขับยับแตกหลัง ไหล่ช้ำ
สองยักษหย่อนกำลัง ลงลเหี่ย โหยแฮ
มีกระทู้ถามซ้ำ ซักเค้าคดีเดิม
           เหวยทศพิณเพศอ้าย อสุรพาล
ประเทศลงกาสฐาน ทั่วด้าว
พระจักรกฤษณ์โปรดประทาน พิเภก ครองนา
โดยศักติ์สืบฃัติยท้าว แทตย์เชื้อพรหมมาน
           เองยังอุบัติเบื้อง กรุงลง กาเอย
ภอปติสนธิ์เจริญยง ใหญ่กล้า
พิเภกใช่บิตุรงค์ ราพล่วง รู้แฮ
เจ้ามลิวันสี่หน้า มิตรไท้ทศกรรฐ
           เลศนี้ใครแจ้งชัก ชวนคลา ไคลเอย
นำทัพจักรวรรดิมา นิเวศน์แล้ว
จับพิเภกพันธนา ขังตรุ ตรากแฮ
เองอหังการแกล้ว กลับขึ้นเถลิงเวียง
           ปางสองอนุชเจ้า อวตาร
รับสั่งหาเองหาญ ขัดได้
คบเพื่อนร่วมกิจพาล พวกเท่า ใดแฮ
อย่าบิดปิดปกไว้ จุ่งแจ้งไขจริง
          ทศพิณเจบปวดเร้า รบมกาย
สารภาพตามเหตุถวาย สัตยไท้
ฃ้ากับพี่เลี้ยงผาย ผันเที่ยว สวนนา
วรณีสูรร้องไห้ โศกแล้วกลับสรวล
           ข้าจึงถามพี่เลี้ยง เลศประจักษ
บิตุเรศนามทศภักตร์ ผ่านด้าว
พิเภกทรนงศักดิ์ นำศึก สู่แฮ
ฆ่าทศเศียรญาติ์ท้าว แทตยได้ครองนคร
           ทราบเหตุฃ้าเคียดแค้น คิดอาย หนักนอ
ชวนวรณีผันผาย ลอบลี้
ลุพึ่งจักรวรรดิสหายพระบิตุ รงค์นา
คิดร่วมสองเท่านี้ แน่สิ้นสัตยา
           สวาเสมียนเขียนสอบถ้อย ถามวระ ณีเอย
เจ้าซัดมึงมูละ ก่อเค้า
ราชมันบีบศีศะ ซบบอบ รบมแฮ
ขู่เคาะเราะเตือนเร้า เร่งแจ้งโดยจริง
           พี่เลี้ยงปวดขมับปิ้ม ปานดับ ชีพนอ
ฅอตกพาดคาทับ นิ่งถ้อย
ทำมรงเร่งไม้ขมับ มึนซบ ลงนา
เปนสัตยรับเรียบร้อย ร่วมถ้อยทศพิณ
           สุครีพเรียงคัดข้อ คำยักษ ทูลเอย
ตรัสว่ายังบังพัก พวกข้อง
แต่หากจะถามซัก ฟอกไล่ ลเอียดนา
คงพาดมณโฑต้อง เกี่ยวเข้ารคนความ
           ข้อนี้ยกให้พิ เภกอง คตเอย
อันนักโทษสองทนง ศักดินั้น
รีบพาสู่นครลง กาตระ เวรแฮ
แล้วตัดเศียรเสร็จซั้น เสียบไว้ริมทวาร

จบห้องที่ ๑๓๕

  เนื้อความกล่าวถึงอสุรผัด ยามลิวัน และกันยุเวกนำทัพกลับกรุงลงกา อสุรผัดเฝ้าพิเภก ถอดเครื่องจองจำและพาไปเฝ้าพระพรต พระพรตตรัสว่าพิเภกเป็นโหร เหตุใดจึงเลี้ยงลูกอสรพิษจนเจียนจะสิ้นชีวิต พิเภกจึงทูลว่าที่หลงฟูมฟักทศพิณเพราะคิดว่าเป็นลูก จึงเป็นเหตุให้พระพรตต้องเดือดร้อน สมควรที่ตนจะถูกประหาร พระพรตตรัสว่าพระรามให้ยกพลมาทำศึกเพื่อล้างอธรรม พระพรตสั่งให้สุครีพชำระความทศพิณและวรณีสูร สุครีพจึงให้นำตัวทศพิณและวรณีสูรมาทรมานและสอบสวนว่าใครเป็นผู้ร่วมสมคบคิดชักศึกเมืองจักรวรรดิเข้ากรุงลงกา ทศพิณถูกทรมานจึงเล่าเรื่องทั้งหมดจนถึงตนได้ครองเมือง ว่าได้ร่วมคบคิดกับวรณีสูรเพียง ๒ คน ส่วนวรณีสูรถูกบีบขมับทรมานจนยอมรับว่าทศพิณพูดความจริง สุครีพทูลรายงานการสอบสวน พระพรตตรัสว่าหากซักฟอกละเอียดคงพาดพิงถึงนางมณโฑ ข้อนี้ยกให้พิเภกและองคตเป็นผู้พิจารณา ส่วนนักโทษทั้งสองให้นำตัวไปตระเวนประจานในกรุงลงกา แล้วตัดหัวเสียบไว้ที่ริมประตูเมือง

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ไฉนจิ่งเลี้ยงลูกอ้าย”